มารู้จักสิว กระ ฝ้า กันเถอะ
สาเหตุของการเกิดสิว
- ปัจจัยภายใน คือ ปัจจัยที่เกิดจากร่างกายเราเอง เช่น ฮอร์โมน, กรรมพันธุ์, โรคเรื้อรัง และ ผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวเราตั้งแต่กำเนิด
- ปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่เกิดขึ้นจากนอกร่างกายของเรา เช่น ยา, เครื่องสำอาง, สภาพแวดล้อม, สังคม, แสงแดดและอุณหภูมิ ความสะอาด และ อาหาร ซึ่งเราสามารถป้องกันได้
สิว มักเกิดบริเวณSeborrhic area ซึ่งผิวหนังบริเวณนั้นมีPilosebaceous unit ชนิด Sebaceous follicle,เป็น follicleที่ประกอบไปด้วย small villus hair และ large multiacina sebaceous gland เมื่อมีการกระตุ้นSebaceous glandมากเกินพอดีจะสร้างไขมัน(Sebum) มามากขึ้น Sebumนี้ประกอบด้วย triglyceride,ester,waxและสารอื่นๆ หากSebumถูกผลิตมากจะระบายsebumออกทางรูขุมขนไม่ทัน และค้างในfollicle ,sebumจะกระตุ้นให้Keratinocyteสร้างkeratinมามากขึ้น และจับตัวกันแน่นผิดปรกติเกิดเป็นสิวอุดตัน(Comidone)
ฝ้า เป็นสภาพผิวหนังของใบหน้าที่มีปื้นเป็นสีคล้ำ เกิดจากการเพิ่มจำนวนเม็ดสีที่ผิวหนังซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเป็นฝ้าแต่ผู้ชายก็เป็นฝ้าได้หากตากแดดมากเกินไป
วัยที่เริ่มเป็นฝ้า ได้แก่ วัยกลางคน พบเป็นกันมากในประเทศเขตร้อนเพราะได้รับแสงแดดมากกว่าที่อื่น ยังมีปัจจัยทางพันธุกรรมและฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สำหรับฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน คือฝ้าที่เกิดระหว่างการตั้งครรภ์หรือในช่วงที่กินยาคุมกำเนิด เมื่อหมดการกระตุ้นจากฮอร์โมนตามที่กล่าวมาฝ้าที่เป็นอยู่ก็จะหายขาดไปเอง รวมถึงการแพ้เครื่องสำอางบางอย่างอาจทำให้เกิดฝ้าดำขึ้นได้
ฝ้าที่เกิดใหม่มักเป็นชนิดตื้น เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้ามีจำนวนเม็ดสีเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเป็นไปนาน ๆ ก็มีโอกาสกลายเป็นฝ้าลึก ซึ่งเกิดจากการเพิ่มของเม็ดสีในชั้นหนังแท้ สีฝ้าจะคล้ำเข้มมากขึ้น และรักษาให้หายยาก
การรักษาฝ้าการทายาที่มีตัวยาไฮโดรควิโนน หรือกรดวิตามินเอ พวกนี้จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี สารในกลุ่มไวเทนนิ่ง เช่น กรดโคจิก ชาเขียว ชาขาว ซึ่งจะมีพิษน้อยกว่าในกลุ่มที่เป็นยา แต่ประสิทธิภาพในการรักษายังไม่แน่นอน เพราะไม่มีหลักฐานวิชาการสนับสนุนชัดเจน
การรักษาฝ้าการทายาที่มีตัวยาไฮโดรควิโนน หรือกรดวิตามินเอ พวกนี้จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี สารในกลุ่มไวเทนนิ่ง เช่น กรดโคจิก ชาเขียว ชาขาว ซึ่งจะมีพิษน้อยกว่าในกลุ่มที่เป็นยา แต่ประสิทธิภาพในการรักษายังไม่แน่นอน เพราะไม่มีหลักฐานวิชาการสนับสนุนชัดเจน
การรักษาด้วยเทคโนโลยี เช่น การทำเลเซอร์ด้วย คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ต้องระวัง เพราะมีผลข้างเคียงสูงบางคนทำแล้วหายก็จริง แต่ผิวที่ขึ้นใหม่จะคล้ำเป็นรอยดำ ซึ่งเกิดจากรอยแผลของการทำเลเซอร์ ส่วนการรักษาฝ้าด้วยวิธีไอออนโตหรือโฟโตนั้นยังไม่เป็นการรักษาที่ยอมรับในระดับสากล หากจะใช้วิธีการักษาดังกล่าวต้องใช้ควบคู่กับการทายาด้วยจึงจะได้ผล
กระมี 3 ชนิด คือ กระตื้น กระลึก และกระเนื้อ
กระตื้นจะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล มักเป็นบริเวณใบหน้าหรือส่วนที่โดนแสงบ่อยๆ กระตื้นยังแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
- Freckie มักพบในเด็กและวัยรุ่น กระนี้จะมีสีเข้มขึ้นและเห็นชัดเจนถ้าไปโดนแดด และจะจางลงเมื่อไม่โดนแดด
กระลึกมีลักษณะเป็นจุดสีเทาหรือฟ้าอมเทาหลายจุดที่บริเวณโหนกแก้มสองข้าง มักพบในผู้หญิงเอเชียเนื่องจากมีเซลล์สร้างเม็ดสีขึ้นผิดที่ คือไปอยู่ชั้นหนังแท้ เพราะฉะนั้นกระลึกพวกนี้จึงไม่ตอบสนองต่อการทายากำจัดฝ้า
กระเนื้อมีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาลหรือดำ ซึ่งค่อยๆ ขยายขนาดขึ้นช้าๆ เป็นตุ่มแบนขนาดใหญ่มีขอบชัดเจน ผิวอาจจะเรียบหรือขรุชระก็ได้ ส่วนมากจะเริ่มเป็นตั้งแต่วัยกลางคน และค่อยๆ เพิ่มจำนวนและขนาดขึ้นช้าๆ ตามอายุ มักพบรอยโรคที่ใบหน้าและส่วนของลำตัวผู้ที่มีการตกกระแบบนี้มักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นด้วย
การรักษา กระตื้นนิยมรักษาด้วยเลเซอร์ซึ่งทำให้เกิดสะเก็ดขาวและหลุดออกไป แต่เนื่องจากเป็นกรรมพันธุ์กระนี้จะกลับมาขึ้นใหม่อีกหากไปโดนแสงแดดจัด ส่วนกระลึกแนะนำให้ทำไอพีแอล
ผู้ป่วยไม่ต้องกังวลใจหากไม่ได้รักษา เนื่องจากรอยโรคเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็งผิวหนัง
ขอบคุณเเหล่งที่มาของข้อมูล https://th.wikipedia.org/wiki
จากข้อมูลที่อ้างอิง ทั่งสิวเเละฝ้ากระเกิดจากหลายสาเหตุทางผู้เขียนเเนะนำการรักษาสิวฝ้าให้ใช้สมุนไพรไทยซึ่งสมุนไพรไทยของประเทศไทยเรานี้เองที่เป็นวิธีรักษาสิวรักษาฝ้าไม่เเพ้สารเคมีเเละสมุนไพรไม่ทำให้เกิดการระคายเคียงอีกด้วยสินค้าชื่อน้ำขิงมิ้นเป็นสินค้าที่ผลิตจากใบสาร่าเเน่เเละจากขมิ้นเพื่อนำมารักษาสิวฝ้า ผ่านการจดทะเบียน ส่วนคุณสมบัติของใบสะระเเน่เเละขมิ้นที่นำมาสกัดผลิตเป็นผลิตภัณท์ดูคุณสมบติของสมุนไพรไทยกดได้ที่ โลชั่นรักษาสิวฝ้า
สนใจสินค้าโทร 0822563668